ดอลลาร์หนุนทองคำ

จับตาเงินหยวนแข็งค่ากดดันดอลลาร์หนุนทองคำ

ความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามกีดกันการค้าของสหรัฐฯ กับนานาประเทศ กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่ง หนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวเพิ่มขึ้น จับตาการฟื้นตัวของค่าเงินหยวนหากแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ จะกดดันดอลลาร์ หนุนราคาทองคำดีดตัวไปต่อ

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลียน แอนด์ ฟิวเจอร์สกล่าวถึงทิศทางราคาทองคำช่วงที่ผ่านมาว่า มีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วงลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และการปรับฐานของตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ และความวิตกกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ อาจส่งกระทบต่อการเติบโต

“ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยให้เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุดีอาระเบีย ที่ทวีความรุนแรงขึ้น กลับมาเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นแรงซื้อในตัวทองคำ”

 

ดอลลาร์หนุนทองคำ

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำไปได้ไม่ไกลมากนัก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยออกมายังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ประกอบกับรายงานการประชุมของคณะกรรมการ FOMC ประจำเดือนกันยายน ยังคงยืนยันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงคุมเข้มนโยบายการเงินตามแผนเดิม โดยจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในเดือนธันวาคม และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ตามที่เคยส่งสัญญาณไว้ 

สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตา มองไปที่การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั้งในฝั่งสหรัฐฯ หรือในฝั่งจีน ซึ่งการร่วงลงของตลาดหุ้นจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสร้างแรงซื้อเข้าในตลาดทองคำ โดยอาจจับตาดูการเคลื่อนไหวของทิศทางค่าเงินหยวนเพื่อประกอบการลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้ ค่าเงินหยวนอ่อนค่ามากจนกดดันราคาทองคำ แต่ว่าทิศทางเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น หลังทางการจีนออกมาส่งสัญญาณจะกลับเข้ามาดูแลเศรษฐกิจ หลังจากพบว่าแนวโน้มเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอตัวลง

“หากเงินหวยฟื้นตัวแข็งค่ามากยิ่งขึ้น อาจกลับมาเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ควรติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะยังคงส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินตามเดิม รวมถึงรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดๆ ไป”

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำ แม้โมเมนตัมของทองคำจะเป็นบวกมากขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยกดดันทำให้เมื่อราคาขยับ หรือดีดตัวขึ้นยังคงมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ประเมินแนวต้าน 1,246/1,266/1,284 เหรียญ/ออนซ์ ส่วนแนวรับ 1,214/1,197 และ 1,180 เหรียญ/ออนซ์ โดยในระยะสั้นราคาทองอาจยืนอยู่เหนือโซนแนวรับ 1,214 เหรียญ/ออนซ์ ประเมินว่าราคาอาจค่อยๆ ขยับ หรือดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบแนวต้นสำคัญ 1,235-1,246 เหรียญ/ออนซ์ แต่หากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หรือไม่มีแรงบวกมากพอ อาจแบ่งทองคำออกขายที่บริเวณดังกล่าว และรอเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัว