ค่ากำเหน็จคืออะไร

ทองคำแท่งคือทองที่ขึ้นรูปเป็นลักษณะก้อนสี่เหลี่ยม หรือลักษณะแบนที่เรียกว่าเหรียญ ทองลักษณะประเภทนี้จะไม่นิยมใช้เป็นเครื่องประดับหรือพกพาไปไหน แต่นิยมนำเก็บไว้ในตู้เซฟหรือฝากไว้กับทางธนาคาร  ไว้สำหรับเป็นทรัพย์สมบัติและเก็งกำไร ในส่วนของทองคำรูปพรรณก็ใช้เก็งกำไรและเก็บเป็นทรัพย์สินได้เช่นกัน แต่นอกเหนือจากนั้นก็ยังมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง ใส่เพี่อความสวยงามกันได้อีกด้วย เมื่อเราไปซื้อทองคำประเภททองรูปพรรณ ไม่ว่าจะเลือกซื้อที่ร้านทองร้านใดที่ไหนก็แล้วแต่ นอกจากราคาของทองที่มีอัตราของราคาที่แน่นอนซึ่งกำหนดไว้ในแต่ละวัน ที่เราสังเกตได้จากราคาที่ร้านทองแต่ละร้านติดป้ายบอกเอาไว้หน้าร้านแล้ว ราคาของทองรูปพรรณยังรวมเพิ่มกับสิ่งที่เรียกกันว่า ค่ากำเหน็จ อีกด้วย หลายคนคงจะสงสัยกันว่า แล้วค่ากำเหน็จนี่คืออะไร เขาคิดจากส่วนไหนและมีความจำเป็นต้องมีค่ากำเหน็จด้วยหรือ แล้วในส่วนของทองคำแท่งมีค่ากำเหน็ดด้วยหรือไม่ คำตอบก็คือ ค่ากำเหน็จเป็นสิ่งจำเป็นที่ร้านทองทุก ๆ ร้านจะต้องคิดเพิ่มกับลูกค้า เพราะราคาทองรูปพรรณที่มีเฉพาะค่าทองตามอัตราตลาดทองคำนั้น ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นั้นก็คือ ค่ากำเหน็จ ซึ่งค่ากำเหน็จนั้นก็คือ ค่าแรงงานของช่างฝีมือหรือช่างที่ทำทองให้เป็นรูปร่างและลวดลายสวยงามของทองรูปพรรณที่เราซื้อนั่นเอง โดยทั่วไปทางร้านขายทองคำก็จะมีอัตราของค่ากำเหน็จที่แจ้งไว้แล้วล่วงหน้าให้ลูกค้าทราบ เมื่อเราเลือกซื้อทองรูปพรรณได้ตามที่ต้องการถูกใจแล้ว ทางร้านจะเคาะราคาทองจากการชั่งน้ำหนักของตัวทองโดยเทียบอัตราจากค่าทอง ณ เวลานั้น จากนั้นก็บวกกับค่ากำเหน็จเข้าไป ก็จะได้ราคาที่เราจะซื้อต่อชิ้นทองรูปพรรณ ในส่วนของทองคำแท่งนั้นจะไม่มีค่ากำเหน็จ เพราะรูปแบบของทองคำแท่งจะหลอมมาง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลาฝีมือของช่างมากนัก แต่ก็จะมีค่าบล็อกเข้ามาแทน Read More

จีนพบวิธีเปลี่ยน “ทองแดง” เป็น “ทองคำ”

นักวิทย์จีนค้นพบวิธีเล่นแร่แปรธาตุ เปลี่ยนทองแดงเป็นวัสดุคล้ายทองคำ หวังทดแทนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (Chinese Academy of Sciences) ในมณฑลเหลียวหนิง ได้อ้างความสำเร็จลงในวารสารด้านวิทยาศาสตร์ “Science Advances” เมื่อวันเสาร์ (22 ธ.ค.)ทีผ่านมา ถึงวิธีการ“เล่นแร่แปรธาตุ” เพื่อเปลี่ยนทองแดงให้สามารถกลายเป็นวัสดุที่มีความ”คล้ายทองคำมากที่สุด”ได้เป็นผลสำเร็จ รายงานระบุว่า ศาสตราจารย์ซุนเจียน และเพื่อนทีมวิจัยของเขาที่สถาบันฟิสิกส์เคมีแห่งต้าเหลียน ได้ใช้วีธีการยิงแร่ทองแดงด้วยไอพ่นของก๊าซอาร์กอนร้อนที่มีประจุไฟฟ้า จนส่งผลให้อนุภาคทองแดงแตกตัวเป็นไออนที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และจะระเบิดอะตอมของทองแดง เมื่ออะตอมเย็นตัวลงจะเกิดการควบแน่นบนพื้นผิวจนสะสมให้กลายเป็นลักษณะคล้ายชั้นทรายบางเคลือบทองแดงไว้ โดยทรายแต่ละเม็ดจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงไม่กี่นาโนเมตรเท่านั้น จากนั้นทีมนักวิจัยได้นำวัสดุทรายนี้ไปทำปฏิกิริยาและใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเปลี่ยนถ่านหินเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นจึงนำไปผ่านกระบวนการทางเคมีอันซับซ้อนหลายขั้นตอนที่รายงานไม่ได้ระบุในรายละเอียดดังกล่าวเนื่องจากเป็นความลับ อย่างไรก็ดีผลลัพธ์ของขั้นตอนเหล่านี้คือวัสดุที่คล้ายกับทองคำมากที่สุด โดยมีลักษณะความมันวาวและน้ำหนักที่คล้ายกับทองคำ แต่ทว่าความหนาแน่นและการคงทนความกัดกร่อนนั้นก็ยังคงเป็นลักษณะเช่นเดียวกับทองแดง ศ. ซุนเจียน ระบุว่ากระบวนการนี้ยังไม่สามารถทดแทนทองคำตามธรรมชาติได้ แต่มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำที่ดีกว่าทองแดง แต่ก็ยังคงด้อยกว่าทองคำแท้ๆ ซึ่งวิธีการดังกล่าวสามารถทำไปใช้ในอุตสาหกรรมด้านต่างๆที่ต้องใช้วัสดุทองคำในการผลิตโดยเฉพาะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี  

แรงซื้อยังมีมากลุ้นทองคำแตะ1,300US

สัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯผลักดันราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น แนะจับตาท่าทีสงครามการค้าสหรัฐและจีน รวมถึงการปิดทำการของหน่วยงานภาครัฐของอเมริกา ภาพรวมราคาก่อนหน้าขึ้นแรง ลุ้นทะลุ 1,296-1,300 เหรียญ แต่หากอ่อนตัวหลุดระดับ 1,256 เหรียญ แนะนำชะลอลงทุน“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอรส์ กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2018 ว่ามีทิศทางฟื้นตัวและสดใสอย่างชัดเจนราคาระหว่างสัปดาห์มีการทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือน ทั้งนี้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากทิศทางตลาดหุ้นจากฝั่งสหรัฐฯมีการปรับฐานหรืออ่อนตัวลงจากความวิตกกังวลว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯอาจจะมีทิศทางชะลอตัวลง ผลประกอบการบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจากทิศทางที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนผลประกอบการอาจมีทิศทางแย่ หรือชะลอตัวลง ประกอบกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งพบว่ามีทิศทางชะลอตัวลงโดยเฉพาะในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ปัญหาการปิดทำการของหน่วยงานในภาครัฐก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยสถานการณ์หรือปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่สร้างแรงขายในตัวสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐฯ และพยุงให้ราคาทองคำมีการปรับตัวหรือมีการทะยานขึ้น สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องติดตาม อาจจะต้องจับตาดูการประชุมกันระหว่างวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ ที่จะมีการเจรจาหรือมีการตกลงกันเกี่ยวกับปัญหา Goverment Shutdown ว่าจะมีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใดซึ่งตามกำหนดการวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ จะมีการประชุมกันในระยะเวลาสั้นๆ ในวันที่ 31 ธันวาคม หรือว่าเป็นวันจันทร์ของสัปดาห์หน้า ประกอบกับวันพุธที่ Read More