แรงซื้อยังมีมากลุ้นทองคำแตะ1,300US

สัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯผลักดันราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น แนะจับตาท่าทีสงครามการค้าสหรัฐและจีน รวมถึงการปิดทำการของหน่วยงานภาครัฐของอเมริกา ภาพรวมราคาก่อนหน้าขึ้นแรง ลุ้นทะลุ 1,296-1,300 เหรียญ แต่หากอ่อนตัวหลุดระดับ 1,256 เหรียญ แนะนำชะลอลงทุน

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอรส์ กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2018 ว่ามีทิศทางฟื้นตัวและสดใสอย่างชัดเจนราคาระหว่างสัปดาห์มีการทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือน ทั้งนี้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากทิศทางตลาดหุ้นจากฝั่งสหรัฐฯมีการปรับฐานหรืออ่อนตัวลงจากความวิตกกังวลว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯอาจจะมีทิศทางชะลอตัวลง ผลประกอบการบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจากทิศทางที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนผลประกอบการอาจมีทิศทางแย่ หรือชะลอตัวลง ประกอบกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งพบว่ามีทิศทางชะลอตัวลงโดยเฉพาะในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ปัญหาการปิดทำการของหน่วยงานในภาครัฐก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยสถานการณ์หรือปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่สร้างแรงขายในตัวสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐฯ และพยุงให้ราคาทองคำมีการปรับตัวหรือมีการทะยานขึ้น

สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องติดตาม อาจจะต้องจับตาดูการประชุมกันระหว่างวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ ที่จะมีการเจรจาหรือมีการตกลงกันเกี่ยวกับปัญหา Goverment Shutdown ว่าจะมีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใดซึ่งตามกำหนดการวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ จะมีการประชุมกันในระยะเวลาสั้นๆ ในวันที่ 31 ธันวาคม หรือว่าเป็นวันจันทร์ของสัปดาห์หน้า ประกอบกับวันพุธที่ 2 มกราคมจะมีการประชุมเอกครัฐสภาอย่างเป็นทางการเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับงบประมาณในการสร้างกำแพงที่ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ต้องการใช้งบประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อยุติการหยุดทำการหรือการปิดทำการของหน่วยงานภาครัฐยังคงดำเนินต่อไป 

อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำให้จับตาดูสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนว่าจะมีการคลี่คลายหรือมีสัญญาณเป็นบวกเป็นลบอย่างไร หลังจากตัวประธานาธิบดีสหรัฐมีการส่งสัญญาณไม่ให้บริษัทที่ใช้อุปกรณ์ทางโทรคมนาคมของบริษัทหัวเว่ย และทีอี อาจจะจำเป็นต้องระงับหรือหยุดใช้บริการสินค้าของ 2 บริษัทดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้ทิศทางของสงครามการค้ากลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง 

นอกจากนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างสำคัญ โดยเป็นการรายงานรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และอัตราการว่างงานประจำเดือนธันวาคม ซึ่งนักลงทุนสามารถจับตาดูตัวเลขดังกล่าวเพื่อเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำเพิ่มเติม 

ส่วนกลยุทธ์ในการลงทุน ในสัปดาห์นี้จะมีวันทำการแค่ 3 วัน ก็คือวันพุธ วันพฤหัสฯ และวันศุกร์ ดังนั้นในส่วนของการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอาจจะมีลักษณะหรือแนวโน้มค่อยๆขยับขึ้น หากปัจจัยพื้นฐานหรือสถานการณ์ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตามราคามีการขยับขึ้นในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก จนเกิดภาวะแรงซื้อมากเกินไปดังนั้นหากราคาขยับหรือดีดตัวขึ้นต่ออาจจับตาแนวต้านในโซนจิตวิทยาระดับ 1,296 หรือ 1,300 เหรียญ ว่าจะมีแรงซื้อมากพอที่จะดันให้ราคาขยับผ่านในโซนดังกล่าวได้หรือไม่ 

“หากราคายังยืนอยู่เหนือระดับดังกล่าวไม่ได้ แนะนำให้ทยอยแบ่งทองคำออกขายบางส่วน เพื่อรอการย่อตัวลงมา ทั้งนี้ประเมินแนวรับระดับ 1,256 เหรียญ เป็นจุดที่นักลงทุนควรเข้าซื้อเพื่อหวังการขยับหรือการดีดตัวขึ้นของราคาอีกครั้ง ซึ่งหากราคาดีดตัวขึ้นอีกครั้งจนผ่านโซน 1,296 ถึง 1,300 เหรียญ ยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง แนวต้านถัดไปประเมินที่ 1,326 เหรียญ และหากราคาเกิดปรับฐานหรือทิ้งตัวลงแรงจนหลุดระดับ 1,256 เหรียญ อาจชะลอในส่วนของการเข้าซื้อไปที่แนวรับระดับถัดไปบริเวณ 1,233 เหรียญ ซึ่งหากราคายังไม่หลุดจาก 1,233 เหรียญ แนวโน้มหรือโมเมนตั้มของราคาทองคำยังคงถือเป็นบวกเช่นเดิม”

ที่มา:mgronline.com